VIOFO A129 Pro Duo กล้องติดรถยนต์ 4K ที่ดีที่สุดในปี 2021

จะดีกว่าไหมนะ?? ถ้าคุณเลือกกล้องติดรถยนต์ที่มีรางวัลการันตีคุณภาพไปดูแลรถยนต์ของคุณ!! แน่นอนว่าต้องดีกว่าอยู่แล้ว เพราะเราจะมั่นใจในเรื่องของคุณภาพได้เลย และถ้าจะพูดมาขนาดนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo ตามหัวเรื่องของเราเลยค่ะ เพราะ กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo เขาได้รางวัล Best Dash Cams of 2021 สาขา 4K Cameras นั่นเองค่ะ!!!! ถึงแม้ว่ารางวัลจะเป็นรางวัลคุณภาพทางด้านความคมชัดแต่ กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo ก็ไม่ได้มีดีแค่แค่นั้น ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรอีกก็ตามไปดูกันได้เลย

 

  คุณสมบัติเด่น ของ กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo

  1. กล้องหน้าของ กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo คมชัด 4K คือ มั่นใจได้เลยว่าคลิปที่ได้ภาพจะสวยคมชัด ไหลลื่น สว่าง ไม่ต้องเพ่งตามองก็เห็นรายละเอียดในคลิปได้อย่างชัดเจน ทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างแน่นอนค่ะ



 2. กล้องหลังของ กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo คมชัด Full HD ซึ่งก็ถือว่าเป็นความคมชัดของกล้องหลังติดรถยนต์ที่สูงสุดและดีที่สุดในตอนนี้แล้วนะคะ ซึ่งคลิปที่ได้ภาพก็จะมีความคมชัดพอสมควรระดับหนึ่ง พอมองออกว่าป้ายเลขทะเบียนรถคืออะไรนั่นเองค่ะ
 
  3. กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo ใช้คาปาซิเตอร์เป็นแหล่งจ่ายพลังงาน ซึ่งตรงนี้เราก็น่าจะพอทราบกันอยู่แล้วว่าแหล่งจ่ายพลังงานที่เป็นคาปาซิเตอร์นั้นมีราคาแพงกว่าแบตเตอรี่ มันก็เลยทำให้กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo มีราคาที่สูงพอตัวซึ่งก็มีราคาอยู่ที่ 5790 บาทค่ะ และสิ่งที่ทำให้กล้องติดรถยนต์ที่ใช้คาปาซิเตอร์มีราคาแพงก็ คือ คาปาซิเตอร์จะมีความปลอดภัยแน่นอน 100% ไม่มีทางเลยที่คาปาซิเตอร์เสื่อม บวม หรือ ระเบิด เพราะคาปาซิเตอร์ทนความร้อนได้ดีมาก ๆ นั่นเองค่ะ

 

  4. กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo มี GPS เป็นตัวเลือก เลือกได้เลยว่าต้องการกล้องติดรถยนต์แบบมี GPS หรือ แบบไม่มี GPS ซึ่งถ้าเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์แบบมี GPS สิ่งที่จะได้ตามมา ก็คือ
  4.1 ได้ความเร็วและพิกัดรถลงไปในคลิปวิดีโอทำให้วิดีโอมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

  4.2 Sync วันที่และเวลาของกล้องติดรถให้อัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องตั้งเองค่ะ

 

  5. กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo สามารถใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24 ชม. ได้ ซึ่งโหมดบันทึกตอนจอดของกล้องติดรถยนต์ VIOFO นี่ถือว่าก็เป็น The Beast เหมือนกันนะ เพราะ สามารถใช้ได้ถึง 3 แบบเพราะปกติกล้องติดรถยนต์รุ่นอื่น ๆ จะใช้โหมดบันทึกตอนจอดแค่แบบเดียวเท่านั้นค่ะ ซึ่งโหมดบันทึกตอนจอดทั้ง 3 แบบของ กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo แบบแรกก็คือ
  5.1 Auto event detection บันทึกเมื่อมีสิ่งเคลื่อนไหวผ่านหน้ากล้องเท่านั้นเช่น มีรถขับมาชน ก็จะได้ทั้งคลิปหลังและก่อนชนทำให้รู้ได้เลยว่ารถที่มาชน มาจากทิศทางไหน ค่ะ

  5.2 Time lapse บันทึกตลอดเวลา แต่คลิปที่ได้จะเป็นแบบเร่งความเร็วเท่านั้น และไม่สามารถกำหนด หรือทำให้คลิปเล่นแบบปกติได้ค่ะ

  5.3 Low bitrate recording เป็นการบันทึกวิดีโอด้วยบิตเรตต่ำที่จะช่วยประหยัดพื้นที่ในเมมมากขึ้น แต่คลิปที่ได้ภาพจะมีความคมชัดน้อยลงค่ะเช่น เมม 64GB บันทึกคลิปปกติใช้เวลา 5 ชม. แต่ถ้าเลือกบิตเรตต่ำจะบันทึกได้ประมาณ 15 ชม.แบบนี้เป็นต้น


และถ้าต้องการใช้โหมดบันทึกตอนจอดจะต้องซื้อสายต่อตรง HK3 เพิ่มเพื่อใช้ต่อตรงกล้องติดรถยนต์เข้ากับฟิวส์แท็บในรถยนต์ถึงจะใช้งานได้นั่นเองค่ะ

6. กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo รองรับอุปกรณ์เสริม CPL Filter กับ Bluetooth Remote ได้ และก็ไม่ใช่แค่ กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo ที่รองรับ CPL Filter กับ Bluetooth Remote ได้เท่านั้น กล้องติดรถยนต์ VIOFO ซีรีส์ A129 ทุกรุ่นก็สามารถรองรับอุปกรณ์เสริม 2 อย่างนี้ได้เช่นกันค่ะ โดยที่ตัวแรก คือ

  6.1 CPL Filter เมื่อใช้แล้วจะช่วยลดแสงสะท้อน เช่น แสงสะท้อนจากคอนโซนรถ แสงสะท้อนจากถนน ซึ่งแสงสะท้อนเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้คลิปวิดีโอไม่คมชัด แต่ถ้าใช้ CPL Filter มันก็จะไปช่วยลดแสงสะท้อนต่าง ๆ ทำให้คลิปไม่มัวและชัดขึ้นนั่นเองค่ะ

  6.2 Bluetooth Remote ใช้กรณีกดล็อกคลิปอัตโนมัติเมื่อเจอเหตุการณ์สำคัญ ๆ เพราะถ้าต้องไปกดล็อกคลิปที่กล้องติดรถยนต์ก็อาจจะไม่ทันเวลา แบบนี้เป็นต้นค่ะ


ซึ่งนี่ก็เป็นคุณสมบัติเด่น ๆ ที่มาพร้อมกับ กล้องติดรถยนต์ VIOFO A129 Pro Duo ค่ะ ซึ่งต้องบอกเลยว่ากล้องติดรถยนต์คุณภาพดี ๆ แบบนี้ ถ้าไม่มีถือว่าพลาดนะคะ อย่างที่บอกไปว่าตัวนี้มีราคาอยู่ที่ 5790 บาท ซึ่งอาจจะดูแพงไปสักนิด แต่รับรองได้เลยว่าถ้าซื้อไปใช้ แล้วคุ้มค่าแน่นอนค่ะ

  ช่องทางการสั่งซื้อ