ไม่รู้ไม่ได้กับ 7 ข้อที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อกล้องติดรถยนต์

Last updated: 4 พ.ค. 2565  |  516 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ไม่รู้ไม่ได้กับ 7 ข้อที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อกล้องติดรถยนต์

 



  1. กล้องติดรถยนต์มีทั้งแบบ “มีหน้าจอ” กับ “ไม่มีหน้าจอ”
กล้องติดรถยนต์มีทั้งแบบมีหน้าจอ และ แบบไม่มีหน้าจอ โดยที่แบบไม่มีหน้าจอนั้นจะมี WIFI มาในตัว เพื่อใช้งานกล้องติดรถยนต์ผ่านทางมือถือทั้งหมด ส่วนแบบที่มีหน้าจอนั้นมีทั้งแบบที่มี WIFI และแบบไม่มี WIFI แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่ก็จะมี WIFI มาแล้วในตัว เพื่อช่วยให้เราใช้งานกล้องติดรถยนต์ได้สะดวกสบายมากขึ้น

 



  2. กล้องติดรถยนต์มีทั้งแบบ “มี WIFI” กับ “ไม่มี WIFI”
กล้องติดรถยนต์มีทั้งแบบมี WIFI และแบบไม่มี WIFI ซึ่ง WIFI ของกล้องติดรถยนต์ไม่ใช่ WIFI ที่ใช้เล่น Internet แต่เป็น WIFI มีไว้เพื่อใช้เชื่อมกล้องติดรถยนต์เข้ากับมือถือเพื่อใช้งานผ่านแอพของกล้องติดรถยนต์รุ่นนั้น ๆ เท่านั้น

 



  3. กล้องติดรถยนต์มีทั้งแบบ “มีGPS” กับ “ไม่มี GPS” (บางรุ่นมี GPS Tracking)
กล้องติดรถยนต์มีทั้งแบบมีGPSกับไม่มี GPS ซึ่ง GPS ทำหน้าที่ จะบันทึก “พิกัด” และ “ความเร็ว” ลงในคลิปวิดีโอจะเห็นเมื่อดูคลิปวิดีโอย้อนหลัง รวมถึงถ้านำคลิปวิดีโอไปเปิดในโปรแกรม GPS Player ก็จะเห็นเส้นทางทั้งหมด และกล้องติดรถยนต์ที่มี GPS ยังสามารถใช้ระบบ ADAS ช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้ปลอดภัยร่วมด้วยได้

“GPS Tracking” ตัวนี้เป็นตัวที่สามารถใช้ติดตามรถยนต์ได้ว่าตอนนี้รถยนต์อยู่ที่ไหน ถึงแม้ว่าเรากับรถยนต์จะอยู่ไกลกันแค่ไหนก็ตาม

 



  4. กล้องติดรถยนต์มีทั้งแบบ “รองรับกล้องหลัง” กับ “ไม่รองรับกล้องหลัง”
กล้องติดรถยนต์มีทั้งแบบที่ “รองรับการต่อกล้องหลัง” และ “ไม่รองรับการต่อกล้องหลัง” ถ้าคิดว่าในอนาคตมีแพนจะใช้กล้องหลังร่วมด้วยแนะนำให้เลือกเป็นกล้องหน้าที่รองรับการต่อกล้องหลัง หรือถ้าไม่สะดวกหรือไม่อยากใช้กล้องหลังที่ตัวกล้องหน้ารองรับก็สามารถซื้อกล้องหน้าติดรถยนต์ที่ไม่มีหน้าจอมาติดเป็นกล้องหลังได้เช่นเดียวกันค่ะ

**วิธีการใช้กล้องหน้าเป็นกล้องหลังดูได้ใต้โพสต์

 



  5. กล้องติดรถยนต์มีทั้งแบบ “กล้องหลังติดนอกรถยนต์” กับ “กล้องหลังติดในรถยนต์”
  กล้องหลังติดนอกรถยนต์ กันน้ำ บางรุ่นสามารถติดได้ทั้งนอกรถยนต์และในรถยนต์ ร่วมถึงบางรุ่นยังสามารถติดตั้งเป็นกล้องมองถอยหลังได้ ข้อดีคลิปที่ได้ไม่มีเงาคอนโซนท้ายรถติดไปด้วย ภาพคมชัด

  กล้องหลังติดในรถยนต์ ไม่กันน้ำติดในรถยนต์เท่านั้นโดยส่วนมากกล้องหลังติดรถยนต์จะเป็นแบบติดในรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ ข้อดีฝุ่นไม่เกาะแน่น และถ้าเกิดเหตุชนท้ายรถยนต์กล้องไม่เสียหาย

 



  6. กล้องติดรถยนต์มีทั้งแบบ “ใช้คาร์ปาซิเตอร์” กับ “ใช้แบตเตอรี่”
  กล้องติดรถยนต์ที่ใช้คาปาร์ซิเตอร์ จะมีราคาที่แพงมากกว่า เพราะคาปาร์ซิเตอร์ทนความร้อนได้ดีถึง 100% เมื่อทนความร้อนได้ดีอายุการใช้งานก็เลยยาวนานกว่าและปลอดภัยมากกว่า

  กล้องติดรถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่ จะมีราคาที่ถูกกว่าและคนส่วนใหญ่เข้าถึงได้มากกว่า และปัจจุบันแบรนด์กล้องที่ใช้แบตเตอรี่เช่น 70Mai ก็ได้ปรับปรุงเลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นช่วยให้คลายกังวลเรื่องแบตเตอรี่ระเบิดได้ แต่ในเรื่องของแบตเสื่อมสภาพก็ยังจะต้องพบเจออยู่เพราะเป็นเรื่องปกติของแบตเตอรี่แต่ระยะความเสื่อมสภาพก็ขึ้นอยู่กับการดูรักษาถ้าดูแลดีรักษาก็จะสามารถใช้งานได้นานถึง 3-5ปีเลยทีเดียว

 



  7. กล้องติดรถยนต์ “1CH” “2CH” และ “3CH”
  กล้องติดรถยนต์ 1CH คือมีแค่กล้องหน้าติดรถยนต์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่รองรับการต่อกล้องหลัง ส่วนมากกล้องติดรถยนต์ที่ไม่มีหน้าจอจะเป็นกล้องติดรถยนต์ 1CH

  กล้องติดรถยนต์ 2CH คือกล้องติดรถยนต์ที่มีกล้องหน้า + กล้องหลัง และบางรุ่นก็สามารถเลือกได้ว่า ต้องการกล้องหน้าเพียงอย่างเดียวหรือกล้องหน้า + กล้องหลัง

  กล้องติดรถยนต์ 3CH คือกล้องติดรถยนต์ที่มีกล้องหน้า + กล้องหลัง + กล้องติดในห้องโดยสาร และบางรุ่นก็สามารถเลือกได้ว่า ต้องการกล้องหน้า + กล้องหลังที่เป็น 2CH ได้หรือจะเลือก กล้องหน้า + กล้องหลัง + กล้องติดในห้องโดยสาร 3CH ก็ได้เช่นกัน

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้