Last updated: 12 ก.ย. 2564 | 871 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัจจุบันไวรัสโควิด 19 (COVID 19) มีหลากหลายสายพันธุ์เลยทีเดียว แต่สายพันธุ์ที่อันตรายและต้องเฝ้าระวังนั้นตอนนี้นั้นมีอยู่ 4 สายพันธุ์ โดย ไวรัสโควิด 19 (COVID 19) ทั้ง 4 สายพันธุ์นี้เดิมทีถูกเรียกตามชื่อของประเทศที่พบไวรัสโควิด 19 (COVID 19) เป็นครั้งแรก แต่เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ทางอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเปลี่ยนชื่อไวรัสโควิด 19 (COVID 19) ใหม่โดยมีชื่อเรียกตามความรุนแรงชองไวรัสดังต่อไปนี้
สายพันธุ์ไวรัสโควิด 19 (COVID 19)
สายพันธุ์ที่อันตรายที่สุด
ข้อมูลอัตราการแพร่ระบาด
1. แกมม่า (Gamma) : รุ่นแรงที่สุด หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน และ ลดประสิทธิภาพวัคซีน
2. อัลฟ่า (Alpha) : หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด ซึ่งแพร่ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น 40-70%
3. เดลต้า (Delta) : ระบาดเร็ว แพร่เชื้อง่าย และ หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้
4. เบต้า (Beta) : ระบาดรวดเร็ว อัตราการแพร่เชื้อเร็วขึ้น 50% และยังลดประสิทธิภาพแอนติบอดี้
และนอกจาก แกมม่า (Gamma), อัลฟ่า (Alpha), เดลต้า (Delta),และ เบต้า (Beta) ที่เป็นสายพันธุ์อันตรายที่ต้องเฝ้าระวังแล้ว ก็ยังมีสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังอีกอยู่อีกด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งสายพันธุ์เหล่านั้นก็ได้แก่
สายพันธุ์ที่ต้องเฝ้ารวังเพิ่มเติม
ซึ่งทั้งหมดก็เป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวังกันต่อไป ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้รุนแรงเท่า 4 สายพันธุ์อันตราย แต่ในอนาคตก็ไม่แน่เพราะว่าไวรัสโควิด 19 (COVID 19) นั้นมีการปรับตัวให้อยู่ในสภาพแวดล้อมได้นานขึ้นอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วนั่นเองค่ะ
อาการเมื่อติดไวรัสโควิด 19 (COVID 19)
อาการทั่วไปเบื้องต้น
1. มีไข้ขึ้นสูงตลอดเวลามากกว่า 37 องศาเซลเซียล
2. รู้สึกระคายเคืองคอ มีอาการไอแห้ง
3. มีอาการไอแบบมีเสมหะ
4. รู้สึกหายใจลำบาก
5. หอบเหนื่อยง่าย และ ไม่มีเรี่ยวแรง
6. รู้สึกเจ็บคอ
7. รู้สึกวิงเวียนหัว
8. รู้สึกปวดหัว
9. จมูกไม่ได้กลิ่นอาหาร หรือ กลิ่นต่าง ๆ
10. ลิ้นไม่รับรู้รสชาติอาหารที่ทานเข้าไป
อาการทางผิวหนัง
มีผื่นแดงคล้ายตาข่ายหรือเส้นใยเล็ก ๆขึ้นตามตัว
2. มีผื่นบวมแดงลักษณคล้ายๆ โรคลมพิษขึ้นตามตัว
3. มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง
4. บางคนอาจจะมีตุ่มน้ำ ๆคล้ายโรคสุกใส
5. เกิดอาการโรงผิวหนังแบบฉับพลัน + กับมีไข้ร่วมด้วย
สำหรับอาการที่ได้กล่าวไปข้างต้นต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเสดงอาการเหล่านี้ออกมา บางคนแทบจะไม่แสดงอาการอะไรเลยแต่ก็ติดไวรัสโควิด 19 (COVID 19) เหมือนกัน หรือบางคนแสดงอากาศแต่ไม่ได้รุนแรง แต่บางคนก็แสดงอาการที่รุนแรงอาการออกมา ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันในร่างกายของแต่ละคน อย่างไรก็ตามถ้าไม่แน่ใจว่าติดเชื่อโควิด 19 หรือไม่แนะนำให้ไปตรวจให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อความแม่นยำอีกทีค่ะ
ผลตรวจเป็นบวกพบว่าติดไวรัสโควิด 19 (COVID 19)
1. เตรียม บัตรประชาชน และ เอกสารผลตรวจไวรัสโควิด 19 (COVID 19) ไว้ให้พร้อม
2. โทรเรียกหน่วยงาน 1330, 1668, 1669 เพื่อแจ้งเรื่องต้องการเข้ารับการรักษาไวรัสโควิด 19 (COVID 19) หรือ กรอกข้อมูลในไลน์ก็ได้เช่นกัน ID : @sabaideebot (สบายดีบอต)
3. เมื่อรู้ว่าได้รับไวรัสโควิด 19 (COVID 19) ให้กักตัวงดใกล้ชิดครอบครัวและห้ามออกไปข้างนอกบ้าน หากฝ่าฝืนมีโทษผิดพ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 มาตรา 34
4. หากมีไข้ขึ้นสูงให้ทานยาพาราเซตามอลและเช็ดตัวเพื่อลดไข้เป็นระยะ ๆ
5. สวมใส่ผ้าปิดปากตลอดเวลาและแยกของใช้ส่วนตัวของตัวเองเอาไว้
เตรียมพร้อมเมื่อต้องไปอยู่โรงพยาบาลสนามเพื่อรักษาไวรัสโควิด 19 (COVID 19)
1. เตรียมเสื้อผ้าให้พอดีกับจำนวนที่เข้ารักษาตัว ที่ รพ.สนามจำนวน 14 วัน
2. เตรียมของใช้ส่วนตัวให้พร้อม เช่น สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ครีม เป็นต้น โดยเฉพาะผู้หญิงอย่าลืมที่จะเตรียมผ้าอนามัยติดไว้ด้วยค่ะ
3. ถ้ามีโรคประจำตัวอย่าลืมที่นำยารักษาโรคประจำตัวติดไปด้วย หากมีข้อมูลการรักษากับทางโรงพยาบาลเดิมที่เคยรักษาให้นำไปด้วย (ถ้ามี)
4. เตรียมโทรศัพท์มือถือ กับ สายชาร์จ ให้พร้อมเพื่อใช้สำหรับติดต่อหอผู้ป่วยในขณะที่รักษาตัว
5. ผู้ป่วยสามารถนำกระติกน้ำร้อนของตนเองไปด้วยได้ค่ะ (ถ้ามี)
6 ธ.ค. 2567
26 ก.ย. 2567