Last updated: 25 มี.ค. 2567 | 1644 จำนวนผู้เข้าชม |
ในปัจจุบันผู้หญิงมีโรคภัยที่แอบแฝงอยู่มากมาย ซึ่งถ้าไม่คอยเฝ้าระวังหรือสังเกตอาการอยู่เสมอจะเกิดอันตรายได้ หนึ่งในโรคที่มีความเสี่ยงคือเนื้องอกมดลูก โรคนี้เป็นภาวะที่ผิดปกติของการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในมดลูก ซึ่งอาจเป็นก้อนเนื้องอก ถุงน้ำ หรือมีเลือดออกผิดปกติในช่องคลอด ในบทความนี้จะพาไปรู้ถึงสาเหตุของเนื้องอกที่มดลูก วิธีป้องกัน และแนวทางการรักษามาบอกกัน
เนื้องอกมดลูกคืออะไร
เนื้องอกมดลูกหรือไฟบรอยด์ (Fibroid) เป็นก้อนเนื้อเยื่ออักเสบที่ไม่ร้ายแรงซึ่งเกิดขึ้นในผนังมดลูก โดยทั่วไปแล้วก้อนเนื้อเหล่านี้จะมีขนาดเล็กไม่เกิน 1 เซนติเมตร แต่บางครั้งก็อาจมีขนาดใหญ่กว่า 20 เซนติเมตรด้วยซ้ำ ก้อนเนื้องอกนี้สามารถเติบโตได้ทั้งภายในห้องมดลูก บริเวณผนังมดลูก หรือด้านนอกของมดลูกก็ได้
เนื้องอกมดลูกเกิดจากอะไร
สาเหตุของเนื้องอกมดลูก จนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายประการ ได้แก่
วิธีการป้องกันเนื้องอกมดลูก
ในส่วนของการป้องกันเนื้องอกที่มดลูก มีดังนี้
1. รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และหลีกเลี่ยงภาวะอ้วน
2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง
3. หลีกเลี่ยงการใช้ฮอร์โมนทดแทน ยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็นจริงๆ
4. หากมีประวัติในครอบครัว ควรพบแพทย์เพื่อขอรับการตรวจเพิ่มเติม
5. หากหมดประจำเดือนไปแล้ว ความเสี่ยงจะลดลง
แนวทางในการรักษาเนื้องอกมดลูก
การรักษาเนื้องอกที่มดลูกนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาด ตำแหน่ง อายุ รวมถึงอาการที่เกิดขึ้น โดยมีทางเลือกดังนี้
1. ยาคุมกำเนิด เพื่อควบคุมระดับฮอร์โมน อาจทำให้เนื้องอกหยุดเติบโต
2. ยารักษามดลูกด้วยรังสีรักษา สามารถให้ผลลัพธ์ในการทำให้เนื้องอกหดตัว
3. การผ่าตัดเอาเนื้องอกออก โดยผ่าตัดเปิดหน้าท้องหรือผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Laparoscopic myomectomy)
4. การผ่าตัดมดลูก เป็นวิธีการรักษาขั้นสุดท้าย หากเนื้องอกเติบโตมากหรืออาการรุนแรง
5. การใช้คลื่นความร้อน เช่น วิธี Uterine artery embolization เพื่อตัดการไหลเวียนเลือดของเนื้องอก ทำให้ยุบตัวลงไป
นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพประจำปีก็เป็นวิธีสำคัญที่ช่วยให้รู้เท่าทันการเกิดโรคเนื้องอกที่มดลูกได้ตั้งแต่เริ่มแรก โดยแพทย์จะทำการตรวจคลำบริเวณมดลูกว่ามีก้อนผิดปกติหรือไม่ รวมถึงส่งตรวจด้วยคลื่นความถี่สูง การตรวจภายในช่องคลอด และบางครั้งอาจมีการตรวจด้วยการฉายรังสีจากเครื่อง CT Scan หรือเอ็มอาร์ไอ
หากพบเนื้องอกตั้งแต่เนิ่น ๆ จะสามารถเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ทัน อีกทั้งการตรวจพบเนื้องอกในระยะแรกยังช่วยลดโอกาสการแทรกซ้อนหรือการลุกลามไปเป็นมะเร็งมดลูกได้อีกด้วย ดังนั้นผู้หญิงจึงควรตระหนักถึงการสังเกตอาการผิดปกติของร่างกายอยู่สม่ำเสมอ และไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละครั้ง ควรระมัดระวังและป้องกันตั้งแต่เริ่มแรกจะช่วยให้การดูแลและรักษาโรคเนื้องอกมดลูกประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ