Last updated: 28 พ.ค. 2567 | 738 จำนวนผู้เข้าชม |
หลายๆ คนเมื่อเข้าสู่วัยกลางคนสิ่งหนึ่งที่ต้องดูแลและให้ความสำคัญมากๆ เลยนั่นก็คือเรื่องของสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวๆ นอกจากการตรวจสุขภาพประจำปีแบบทั่วๆ ไปแล้ว การให้สำคัญกับเรื่องของการตรวจภายในก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในผู้หญิง เป็นโรคที่ไม่มีใครอยากให้เป็นนั่นก็คือ ‘มะเร็งปากมดลูก’ โดยในบทความนี้อาสานำเอา 3 ข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการมะเร็งปากมดลูกที่ใครหลายๆ คนอยากทราบ แต่จะมีอะไรบ้าง ตามมาหาคำตอบกันต่อได้จากบทความนี้เลย
1. สาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก
เริ่มกันที่ข้อสงสัยอันดับแรกเกี่ยวกับอาการมะเร็งปากมดลูกที่ใครหลายๆ คนล้วนอยากทราบ นั่นก็คือสาเหตุของการเกิดโรค ซึ่งจากการศึกษางานวิจัยแล้วพบว่ากว่า 90% ของอาการมะเร็งปากมดลูกที่เกิดขึ้นนั้นมาจากการติดเชื้อไวรัส HPV หรือที่ย่อมาจาก Human Papilloma Virus ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยตรง มีหลายสายพันธุ์ ตามปกติแล้วผู้หญิงถ้าหากติดเชื้อนี้จะสามารถหายเองได้ภายในระยะเวลา 2 ปีโดยประมาณ แต่ถ้าหากไม่หาย เชื้อไวรัสนี้สามารถพัฒนากลายไปเป็นมะเร็งได้ในที่สุด ทางที่ดีแนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจภายในประจำปีเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะดีกว่า
2. วิธีสังเกตอาการตกขาว
หลายคนอาจจะทราบมาบ้างแล้วว่าหนึ่งในวิธีของการสังเกตอาการมะเร็งปากมดลูกนั่นก็คือการดูที่ตกขาวเริ่มมีอาการผิดปกติ มีสีเปลี่ยนไป เป็นสีขุ่นๆ ออกน้ำตาล ตลอดไปจนถึงอาการมะเร็งปากมดลูกอาจบ่งบอกผ่านตกขาวที่มีเลือดปนหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ตกขาวมีหนอง หรือมีเศษเนื้อปนออกมา นับว่าเป็นอาการมะเร็งปากมดลูกที่บ่งบอกความผิดปกติ แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการตรวจภายในโดยด่วน เพื่อที่จะได้วินิจฉัยอาการของโรคได้อย่างถูกจุดนั่นเอง
3. มะเร็งปากมดลูกรักษาหายไหม
แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยที่ใครๆ หลายคนน่าจะอยากทราบ เกี่ยวกับอาการมะเร็งปากมดลูกต่างๆ ที่ได้เกริ่นไป โรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ในระยะแรกเริ่มที่ยังไม่มีอาการลุกลามมากนัก ถ้าหากตรวจพบในระยะกลางไปจนถึงระยะที่มากขึ้นแล้วโอกาสที่จะรักษาหายก็มีน้อยลงตามลำดับ ดังนั้นแนะนำให้สาวๆ นอกจากจะเข้ามาตรวจสุขภาพประจำปีแล้วอย่าลืมจัดสรรเวลาเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจโรคภายในของผู้หญิงด้วย หากเจออาการผิดปกติอะไรก็แล้วแต่จะได้ทำการรักษาได้ทันเวลา
ในท้ายที่สุดแล้วอาการมะเร็งปากมดลูกคงเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ทางที่ดีวิธีการป้องกันเชื้อ HPV ที่สามารถนำไปสู่โรคนี้คือการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน ตามสถิติแล้ววัคซีนเองสามารถป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกได้สูงสุดถึง 90% ยิ่งทำวัคซีนตั้งแต่อายุยังน้อย โอกาสในการป้องกันโรคนี้ก็มีเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
10 ต.ค. 2567
11 มิ.ย. 2567
28 พ.ค. 2567
1 ส.ค. 2567