5 ฟังก์ชันพื้นฐานที่กล้องติดรถยนต์ควรมีถ้าไม่อยากให้การใช้งานกล้องติดรถยนต์เป็นเรื่องยาก

Last updated: 4 พ.ค. 2565  |  1145 จำนวนผู้เข้าชม  | 

5 ฟังก์ชันพื้นฐานที่กล้องติดรถยนต์ควรมีถ้าไม่อยากให้การใช้งานกล้องติดรถยนต์เป็นเรื่องยาก

ก่อนที่จะซื้อกล้องติดรถยนต์นอกจากความคมชัดของกล้องติดรถยนต์ที่เราจะต้องเลือกเป็นอันดับ 1 แล้วเราก็ควรจะเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ที่มี 5 ฟังก์ชันพื้นฐานดังต่อไปนี้ เพื่อที่เราจะได้ใช้งานกล้องติดรถยนต์ได้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้นถ้าอยากรู้ว่าทั้ง 5 ฟังก์ชันจะมีอะไรบ้างก็ตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

 

  1. ฟังก์ชัน G-Sensor



กล้องติดรถยนต์ควรมีฟังก์ชัน G-Sensor หรือ ฟังก์ชันล็อกคลิปวิดีโอฉุกเฉินอัตโนมัติ ซึ่งทำหน้าที่คือช่วยล็อกคลิปวิดีโอฉุกเฉินให้อัตโนมัติเมื่อมีแรงสั่นกระแทกเกิดขึ้นกับรถยนต์ เช่น อุบัติเหตุรถชน หรือ มีขโมยมาทุบรถยนต์เพื่อขโมยของ เป็นต้น และคลิปที่ถูกบันทึกด้วยฟังก์ชัน G-Sensor จะถูกล็อกแยกเอาไว้ ไม่นำไปรวมกับคลิปวีโอปกติ จึงทำให้หมดกังวลเรื่องคลิปวิดีโอจะถูกวนทับอัตโนมัติด้วยฟังก์ชัน Loop Recording ไปได้เลย และนอกจากนี้กล้องติดรถยนต์บางรุ่นที่มีฟังก์ชัน G-Sensor ก็ยังมีปุ่มฉุกเฉินที่ให้เราสามารถกดบันทึกคลิปวิดีโอฉุกเฉินด้วยตัวเองได้อีกด้วย เพื่อกรณีที่เราเห็นเหตุการณ์ก่อนมันจะเกิดอุบัติเหตุเราจะได้กดบันทึกก่อนและเพื่อที่เราจะได้คลิปก่อนเกิดเหตุมาด้วยนั่นเองค่ะ

 

  2. ฟังก์ชัน Loop Recording



กล้องติดรถยนต์ควรมีฟังก์ชัน Loop Recording หรือ ฟังก์ชันบันทึกวนลูปอัตโนมัติเมื่อเมมโมรี่การ์ดเต็ม เพื่อตัดปัญหาเรื่องเมมโมรี่การ์ดเต็มแล้วเราต้องคอยฟอร์แมตเมมโมรี่การ์ดเองทุกครั้งที่เต็มไปได้เลย ดังนั้นถ้าหากเรามีคลิปที่ต้องการเราจะต้องรีบเข้าไปดาวห์โหลดคลิปเหล่านั้นออกมาก่อนที่มันจะถูกบันทึกวนลูปอัตโนมัตินั่นเองค่ะ และอย่าลืมว่าคลิปที่ได้จากฟังก์ชัน G-Sensor นั้นไม่ถูกบันทึกวนลูปอัตโนมัติด้วยฟังก์ชัน Loop Recording ถ้าหากดาวห์โหลดคลิปที่ได้จาก G-Sensor เสร็จแล้ว ก็จะต้องลบคลิปออกด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้เมมโมรี่การ์ดเต็มจากคลิปที่ได้จาก G-Sensor นั่นเองค่ะ

 

  3. ฟังก์ชัน WIFI ในตัว



กล้องติดรถยนต์ควรมีฟังก์ชัน WIFI ในตัว เนื่องจาก WIFI ในกล้องติดรยนต์นั้นจะช่วยให้เราใช้งานกล้องติดรถยนต์ได้สะดวกสบายมากขึ้น ทั้งการดูภาพแบบเรียวไทม์ผ่านทางมือถือด้วยภาพที่มีขนาดใหญ่เท่าหน้าจอมือถือได้เลย การตั้งค่าทั้งหมดก็สามารถตั้งค่าในมือถือได้ไม่ต้องไปตั้งค่าที่หน้าจอกล้องให้ลำบากเพราะถ้าเทียบกันแล้วหน้าจอมือถือมีขนาดที่ใหญ่และกว้างกว่าหน้าจอกล้องติดรถยนต์อยู่แล้วเลยทำให้การตั้งค่าทำได้ง่ายกว่า และสุดท้ายคือการดาวห์โหลดคลิปวิดีโอซึ่งถือว่าดีมาก ๆ เพราะช่วยให้เราไม่ต้องถอดเมมโมรี่การ์ดจากกล้องติดรถยนต์ไปดาวห์โหลดในคอมให้เสียเวลา เราสามารถดาวห์โหลดผ่านทางมือถือได้เลยง่าย ๆ และใช้คลิปส่งต่อ หรือแชร์ลง Social ได้เลยค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม: กล้องติดรถยนต์ไม่มีหน้าจอทุกรุ่นจะมี WIFI ให้ในตัว ส่วนกล้องติดรถยนต์ที่มีหน้าจอมีทั้งที่ มี WIFI และไม่มี WIFI แต่ปัจจุบันส่วนมากก็มี WIFI มาให้แล้วเป็นส่วนใหญ่นั่นเองค่ะ

 

  4. ฟังก์ชัน GPS เป็นตัวเลือก



กล้องติดรถยนต์ควรมีฟังก์ชัน GPS ซึ่งปัจจุบันก็จะมีทั้งแบบที่มี GPS มาให้แล้วในตัว กับแบบที่เป็นตัวเลือกสามารถเลือกได้ว่าจะใช้แบบที่มี GPS หรือแบบที่ไม่มี GPS ซึ่งหน้าที่ของ GPS คือบันทึกพิกัดและความเร็วรถลงไปในคลิปวิดีโอ ส่วนมากจะเห็นเมื่อดูคลิปวิดีโอย้อนหลัง พิกัดมีไว้ระบุตำแหน่งนั้นๆ ที่เราขับรถผ่าน ส่วนความเร็วรถก็คือความเร็วรถยนต์ที่เราขับ ทั้ง 2 อย่างนี้สามารถใช้ยืนยันความบริสุทธิ์ของเราได้ถ้าเกิดอุบัติเหตุนั่นเองค่ะ และนอกจากนี้กล้องติดรถยนต์บางรุ่นที่มี GPS ก็ยังสามารถใช้ฟังก์ชัน ADAS ที่เป็นฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้ปลอดภัยได้อีกด้วยซึ่งถือว่าดีมาก ๆ ดังนั้นจึงแนะนำให้เลือกใช้กล้องติดรถยนต์ที่มี GPS จะได้กว่านั้นเองค่ะ

 

  5. มีฟังก์ชันรองรับการต่อกล้องหลัง



กล้องติดรถยนต์ควรมีฟังก์ชันรองรับการต่อกล้องหลัง ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีกล้องติดรถยนต์ที่มีกล้องหน้าพร้อมกล้องหลัง แต่หลาย ๆ คนก็มักจะไม่ได้ซื้อเป็นแบบแพ็กคู่แต่มักจะซื้อเป็นแบบกล้องหน้าติดรถยนต์มาใช้อย่างเดียวมากกว่า ดังนั้นควรเลือกซื้อกล้องหน้าที่ในอนาคตรองรับการต่อกล้องหลังด้วยจะดีที่สุด เพราะถ้าในอนาคตอยากต่อกล้องหลังเพิ่มจะได้ซื้อแค่กล้องหลังมาต่อเพิ่มอย่างเดียวไม่ต้องซื้อใหม่ทั้งหมดนั่นเองค่ะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้