Last updated: 7 พ.ค. 2568 | 31 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัญหาหนี้บัตรเครดิตเป็นเรื่องที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้หลายคนใช้จ่ายเงินเกินตัว และสะสมหนี้บัตรเครดิตไว้หลายใบ การจ่ายขั้นต่ำเดือนละ 5-10% ทำให้หนี้ไม่หมดสักที เพราะดอกเบี้ยสูงถึง 16-18% ต่อปี ทางออกหนึ่งที่น่าสนใจคือ โครงการรวมหนี้บัตรเครดิต ที่ช่วยจัดการภาระหนี้ให้เป็นระบบและลดภาระดอกเบี้ย แต่โครงการรวมหนี้บัตรเครดิตคืออะไรกันแน่? และมีข้อดีอย่างไรบ้าง? มาทำความเข้าใจไปพร้อมกัน
โครงการรวมหนี้บัตรเครดิตคืออะไร
โครงการรวมหนี้บัตรเครดิต คือ การนำหนี้บัตรเครดิตหลายๆ ใบมารวมไว้ในสินเชื่อเดียว โดยสถาบันการเงินจะโอนเงินก้อนใหม่ไปปิดยอดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดของแต่ละธนาคาร หลังจากนั้นจะเหลือเพียงภาระหนี้ก้อนเดียวที่ต้องผ่อนชำระกับสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อรวมหนี้ ซึ่งมักจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าบัตรเครดิตมาก ทำให้การบริหารจัดการหนี้สินง่ายขึ้น และประหยัดเงินในระยะยาว
โครงการรวมหนี้บัตรเครดิตมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อการรีไฟแนนซ์ สินเชื่อบ้านเพื่อรีไฟแนนซ์ (กรณีมีบ้านเป็นหลักประกัน) หรือโปรแกรมโอนยอดบัตรเครดิต (Balance Transfer) โดยแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อดีข้อเสียและเงื่อนไขแตกต่างกันไป
ข้อดีของโครงการรวมหนี้บัตรเครดิต
ดอกเบี้ยต่ำลง ประหยัดเงินมากขึ้น
ข้อดีที่เห็นได้ชัดที่สุดของโครงการรวมหนี้บัตรเครดิต คือ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอย่างมาก จากปกติบัตรเครดิตคิดดอกเบี้ย 16-18% ต่อปี แต่สินเชื่อรวมหนี้อาจคิดดอกเบี้ยเพียง 7-12% ต่อปีเท่านั้น บางโครงการอาจมีโปรโมชันดอกเบี้ย 0% ในช่วงแรก 3-6 เดือน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยได้อย่างมหาศาล ยิ่งมีหนี้บัตรเครดิตมากเท่าไร ยิ่งประหยัดได้มากเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น หากมีหนี้บัตรเครดิต 300,000 บาท ดอกเบี้ย 18% ต่อปี จะเสียดอกเบี้ยประมาณ 54,000 บาทต่อปี แต่หากรวมหนี้ด้วยสินเชื่อที่ดอกเบี้ย 8% ต่อปี จะเสียดอกเบี้ยเพียง 24,000 บาทต่อปี ประหยัดได้ถึง 30,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว
ผ่อนชำระเพียงที่เดียว สะดวกมากขึ้น
การมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ หมายถึงการต้องจัดการชำระหนี้หลายที่ หลายรอบบิล ซึ่งอาจทำให้สับสนและเสี่ยงต่อการพลาดชำระ โครงการรวมหนี้บัตรเครดิตช่วยให้มีหนี้เพียงก้อนเดียว ชำระเพียงที่เดียว ในวันที่กำหนดเพียงวันเดียว ทำให้การบริหารจัดการง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงในการพลาดชำระ ซึ่งอาจนำไปสู่ค่าปรับและดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น ผ่อนสบายขึ้น
บัตรเครดิตมักกำหนดให้ชำระขั้นต่ำ 5-10% ของยอดหนี้ แต่โครงการรวมหนี้บัตรเครดิตมักมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานกว่า เช่น 3-5 ปี หรืออาจนานถึง 10 ปีสำหรับสินเชื่อที่มีหลักประกัน ทำให้จำนวนเงินที่ต้องผ่อนต่อเดือนลดลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้จำกัดแต่ต้องการจัดการหนี้บัตรเครดิตให้หมดไป
เพิ่มโอกาสในการปลดหนี้
การผ่อนชำระบัตรเครดิตแบบขั้นต่ำทำให้หลายคนติดอยู่ในวงจรหนี้ไม่รู้จบ เพราะส่วนใหญ่ของเงินที่จ่ายไปคือดอกเบี้ย แต่โครงการรวมหนี้บัตรเครดิตจะกำหนดแผนการชำระที่ชัดเจน มีกำหนดเวลาสิ้นสุด ทำให้มองเห็นเป้าหมายการปลดหนี้ที่ชัดเจน และมีโอกาสปลดหนี้ได้จริง โดยเฉพาะเมื่อไม่มีการก่อหนี้เพิ่ม
ปรับปรุงประวัติเครดิตในระยะยาว
การมีประวัติการชำระหนี้ที่ตรงเวลาและสม่ำเสมอจากโครงการรวมหนี้บัตรเครดิต จะช่วยปรับปรุงประวัติเครดิตในระยะยาว เมื่อปลดหนี้ได้สำเร็จและมีประวัติการชำระที่ดี จะเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อต่างๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ
โครงการรวมหนี้บัตรเครดิตเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบและต้องการจัดการภาระหนี้ให้เป็นระบบ ช่วยลดภาระดอกเบี้ย ทำให้การชำระหนี้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการปลดหนี้ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจสมัครโครงการรวมหนี้บัตรเครดิต ควรศึกษาเงื่อนไขให้ละเอียด เปรียบเทียบดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากหลายสถาบันการเงิน และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีวินัยทางการเงิน ไม่ก่อหนี้เพิ่ม จึงจะประสบความสำเร็จในการปลดหนี้อย่างยั่งยืน
27 มี.ค. 2568