Last updated: 7 ธ.ค. 2568 | 136 จำนวนผู้เข้าชม |
มิเกล โอลิเวรา นักบิดชาวโปรตุเกสวัย 30 ปี เทียบจุดอ่อน - จุดแข็ง KTM , APRILIA , YAMAHA หลังโบกมือลา MotoGP ในปี 2025 และจะเข้าร่วมแข่งขัน WorldSBK ในปี 2026
มิเกล โอลิเวรา แข่งขันใน MotoGP ตั้งแต่ปี 2019 - 2025 ตลอด 7 ฤดูกาลที่โลดแล่นในคลาสสูงสุดเขาเคยร่วมงานกับ KTM , Aprilia และ Yamaha เขาจึงรู้ความต่างของรถแข่งทั้ง 3 ค่ายนี้ดี
"KTM เป็นรถที่ดีและมีเครื่องยนต์ที่แรงมาก ถ้าวันไหนเซ็ตลงตัวกริปด้านหลังจะยึดเกาะได้ดีมากๆเลยครับ" มิเกล โอลิเวรา กล่าว
"ดังนั้น มันเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้ขี่มัน ในสนามเปียกแทบไม่มีใครเทียบ KTM ได้เลย"
"Aprilia มีความผสมผสานระหว่างรถที่มีรอบเครื่องยนต์สูงในโค้งความเร็วสูง เครื่องยนต์อาจจะไม่แรงเท่าไหร่ การขี่ Aprilia ต้องใช้แรงเยอะแต่ถ้าคุณขี่ได้สมูทและเข้าใจตัวรถเป็นอย่างดีมันจะเร็วมากครับ"
"Yamaha เป็นรถที่ขี่ง่ายสุดๆแต่ปัญหาหลักคือกำลังเครื่องยนต์และกริปด้านหลังค่อนข้างแย่"
มิเกล โอลิเวรา รู้สึกว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณ KTM เพราะผู้ผลิตจากออสเตรียให้ความช่วยเหลือเขามาตลอดในอาชีพนักแข่ง เริ่มจากเข้าร่วมทีม Red Bull KTM Ajo ใน Moto3 2015 ก่อนแยกทางกัน 1 ปีแล้วกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งใน Moto2 2017 - 2018 จากนั้นเขาก็โปรโมทขึ้นมาแข่งขันในคลาส MotoGP กับทีม Red Bull KTM Tech3 ในปี 2019 - 2020 และขยับขึ้นสู่ทีมโรงงาน Red Bull KTM Factory Racing ในปี 2021 - 2022 เขาคือนักแข่ง KTM ที่คว้าชัยชนะได้มากที่สุดในคลาส MotoGP (5 สนาม)
"ผมเป็นหนี้บุญคุณ KTM เพราะพวกเขาให้ความช่วยเหลือผมมาตลอดในอาชีพนี้ รวมทั้งหลายๆคนและหลายๆทีมที่ช่วยผมดึงศักยภาพสูงสุดออกมาเพื่อพัฒนาด้านการขี่และด้านเทคนิค"
"ทุกความสำเร็จของผมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตล้วนมาจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาครับ"
แม้จะยืนยันแล้วว่า มิเกล โอลิเวรา จะเข้าร่วมการแข่งขัน WorldSBK กับทีม BMW ในฤดูกาลหน้าแต่นักบิดชาวโปรตุเกสก็อยากใช้ประสบการณ์ของเขาทำหน้าที่เป็นเทสต์ไรเดอร์ให้กับ Aprilia ในศึก MotoGP ควบคู่ไปด้วย อย่างไรก็ตามการเจรจาดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปในตอนนี้
by cassieJ
เครดิต : www.crash.net