10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี

Last updated: 19 ก.ค. 2564  |  701 จำนวนผู้เข้าชม  | 

10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี

ทุกๆ วันนี้ข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุมีมากจนเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า วันหนึ่งจะเกิดกับเราหรือไม่ และมันจะดีกว่าไหมถ้าเรามีความพร้อมที่จะรับมือกับกับเหตุการณ์เหล่านี้ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อความปลอดภัยของตัวเรา และ ไม่เสียเปรียบให้กับคู่กรณีที่หัวหมอ กับ  10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี มีดังต่อไปนี้

1. หยุดรถทันที
10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี
หยุดรถทันที ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เล็กหรือใหญ่ จากนั้นตั้งสติให้ดี อย่างพึ่งรีบร้อนลงมาเคลีย์เอง ให้นั่งรอเจ้าหน้าที่อยู่ในรถ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเราจะโดนทำร้ายร่างกายหรือไม่ และก็อย่าขับรถหนีเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ตาม

2. โทรเรียกรถพยาบาล
10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี
โทรเรียกรถพยาบาลทันที ถ้าคู่กรณีบาดเจ็บสาหัส ไม่ว่าคู่กรณีจะถูก หรือ ผิด ก็ตาม และถ้าเป็นไปได้อย่าเข้าไปขยับร่างกายของคนเจ็บเด็ดขาด เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าถ้าเราขยับตัวผู้บาดเจ็บแล้วเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง บางทีความหวังดีของเราอาจจะทำให้อาการของเขาแย่ลงได้

3. โทรแจ้งตำรวจ
10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี
โทรแจ้งตำรวจทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เล็กหรือใหญ่ และก็อย่าลืมที่จะแจ้งความกับตำรวจลงเป็นหลักฐานไว้ ถึงแม้ว่าคู่กรณีบอกไม่ต้องแจ้งความก็ได้ ยังไงเขาก็รับผิดชอบเราอยู่แล้ว ก็อย่าคล้อยตามเด็ขาด เพราะบางทีถ้าไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อังษร พอถึงเวลาเขาอาจจะไม่ได้รับผิดชอบก็ได้เช่นกัน

4. อย่ารีบพูดขอโทษ
10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี
การพูดขอโทษเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเราพูดขอโทษก่อนมันอาจจะกลายเป็นว่าเรายอมรับผิดในเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งๆ ที่ความจริงเราอาจจะไม่ใช่คนผิด เพราะฉะนั้นต้องรอให้เหตุการณ์เคลียร์ก่อน ถ้าหากเราผิดจริงค่อยพูดขอโทษ

5. พูดความจริงกับตำรวจ
10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี
อย่าให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงกับตำรวจเด็ดขาด ถ้ารู้ให้บอกรู้ ถ้าไม่รู้ก็บอกไม่รู้ อย่าแต่งเรื่อง เพราะ ถ้าเราเป็นคนผิด นอกจากจะโดนข้อหาขับรถโดยประมาทที่ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บแล้ว เรายังจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จเพิ่มอีกด้วย

6. หาพยานเหตุการณ์
10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี
ให้เราหาพยานที่เห็นเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เห็นเหตุการ์ณ์ หรือ กล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณนั้น ร่วมถึงกล้องติดรถยนต์ของเรากับคู่กรณี หรืออาจจะเป็นกล้องติดรถยนต์ของรถที่อยู่บริเวณนั้น ที่เราคาดว่ากล้องของเขาจะบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ให้เราหาและนำมาเป็นพยานหลักฐานให้กับเราให้มากที่สุด

7. เก็บข้อมูลจากคู่กรณี
10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี
เมื่อเกิดอุบัติเหตุนอกจากจะหยุดรถ ตั้งสติแล้ว ก็อย่าลืมที่จะจด จำ ป้ายทะเบียนรถ สีรถ และก็ยี่ห้อรถ ของคู่กรณีไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจด หรือถ่ายูปไว้ เผื่อคู่กรณีหนีจะได้ตามตัวกลับมารับผิดชอบได้ แต่ถ้าคู่กรณีไม่ได้หนี ให้ลงไปคุยและสอบถามข้อมูลจากคู่กรณี ฟังความเก็บข้อมูลในมุมของคู่กรณีว่าที่เกิดเหตุนี้เป็นเพราะอะไร

8. โทรเรียกประกัน/ตกลงค่าเสียหาย
10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี
ให้คุยกับประกันให้ละเอียดและให้เข้าใจ และตกลงค่าเสียหายให้ดี ว่าจะให้ประกันรับผิดชอบหรือเราจะเป็นคนรับผิดชอบเอง เพราะในบางกรณีถ้าเราให้ประกันรับผิดชอบ อาจจะส่งผลให้ค่าเบี้ยประกันเพิ่มสูงขึ้นด้วย แต่ถ้าเป็นคนรับผิดชอบเอง ค่าเบี้ยประกันก็จะน้อยกว่า

9. อย่ารีบรับข้อเสนอ
10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี
หลังจากที่คุยกันแล้วก็อย่าพึ่งรีบรับข้อเสนอจากคู่กรณีเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าซ่อมรถ หรือ ค่ารักษาพยาบาล หากคู่กรณีบอกจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้จำนวนเงินเท่านี้ แล้วบอกให้เรายอมความ ณ เวลานั้นเราไม่สามารถรู้ได้อยู่แล้วว่าอาการบาดเจ็บของเราเป็นอย่างไร เราต้องไปตรวจก่อนถ้าหากอาการบาดเจ็บของเราต้องใช้ระยะเวลารักษานาน หลายปี หากเรายอมความไปแล้ว การที่เราจะเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มนั้นจะทำได้ยากขึ้น

10. ไปโรงพยาบาล
10 สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เสียเปรียบคู่กรณี
หลังจากเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่ว่าร่างกายจะแสดงอาการบาดเจ็บหรือไม่แสดงก็ตาม แนะนำให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลให้ละเอียดก่อน เพราะบางอาการไม่ได้แสดงอาการให้เราเห็นในทันทีนั่นเอง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้